วัดพระธาตุเขาน้อย
“พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน” เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรยืนเด่นสง่าบนฐานดอกบัว ประดิษฐานบนภูเขาสูงได้กลายมาเป็นภาพประทับใจที่คุ้นตาของนักเดินทางทั่วประเทศไทย ซึ่งสถานที่นั้นตั้งอยู่ที่ “วัดพระธาตุเขาน้อย” วัดแห่งเดียวในตัวเมืองน่านที่อยู่บนภูเขาและมีจุดชมวิวทัศน์เมืองน่านในมุมสูงที่สามารถมองเห็นสถานที่สำคัญและตัวเมืองน่านแบบพาโนราม่า วัดพระธาตุเขาน้อยตั้งอยู่บนดอยเขาน้อยสูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 240 ม. หน้าวัดมีทางขึ้นเป็นบันไดนาคสูง 303 ขั้น รถสามารถขึ้นถึงตัววัด กรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนวัดนี้เป็นโบราณสถาน เมื่อ พ.ศ. 2523 วัดพระธาตุเขาน้อย เป็นโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน สันนิษฐานว่ามีอายุรุ่นราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2030 และได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยพระเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดชฯ เมื่อปี พ.ศ. 2449 โดยองค์พระธาตุเป็นเจดีย์ศิลปะแบบพม่าผสมลานนา ฝีมือช่างชาวพม่านาม “หม่องยิง” ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าที่ชาวลานนาต่างแวะเวียนมาสักการะ
เดินทางโดย ขับรถ
ใช้เวลา 11 นาที
พิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านพระเกิด อนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้านจังหวัดน่าน
ชุมชนบ้านพระเกิด ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน วิถีชุมชนโบราณที่สืบต่อมานานกว่า 100 ปี จึงเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชุมชนคนน่าน มีการอนุรักษ์โบราณวัตถุ สิ่งของเครื่องใช้ในสมัยบรรพบุรุษที่ตกทอดสู่ลูกหลาน ล้วนเป็นมรดกทรงคุณค่า ภายในวัดพระเกิด มีโบราณวัตถุ เช่น มณฑปครูบาอินผ่อง วิสารโท อดีตเจ้าอาวาส พระพุทธรูปไม้โบราณ จารึกตัวเมือง อายุ 168 ปี พระพุทธรูปไม้ทรงเครื่อง ประมาณอายุไม่ได้ พระพุทธรูปไม้ปางสมาธิและปางอื่นๆ พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ หีบธรรมลงรักปิดทอง จำนวน 11 หีบ หอไตรและหอกลอง ตลอดจนสิ่งของ เครื่องมือทำมาหากิน เครื่องใช้ภายในบ้าน และอื่นๆ นอกจากนี้ ได้จัดแสดงวัตถุโบราณของทางวัด คัมภีร์ใบลานอักษรธรรมลานนา จำนวน 2,323 ผูก คัมภีร์พื้นเมืองน่าน พงศาวดารเมืองน่าน ฉบับวัดพระเกิด หนังสือพื้นเมืองน่าน ฉบับวัดพระเกิด 2 ภาษา อักษรตัวเมืองและอักษรไทย คัมภีร์ต่างๆ มีผู้มีจิตศรัทธานำมาบริจาค พิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านพระเกิด ตั้งอยู่ภายในวัดพระเกิด อยู่ที่บ้านพระเกิด ถนนสุมนเทวราช ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นที่เก็บรักษามรดกล้ำค่าไว้แก่อนุชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาและเรียนรู้สืบไป
เดินทางโดย การเดิน
ใช้เวลา 17 นาที
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดน่าน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดน่าน ตั้งอยู่ภายในบริเวณคุ้มของเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดช เจ้าเมืองน่าน ชาวบ้านมักเรียก คุ้มหรือที่ประทับของเจ้าเมืองว่า "หอคำ" ซึ่งสร้างขึ้น เมื่อ ปีพุทธศักราช 2446 หอคำมีลักษณะเป็นอาคารโอ่โถงงดงามก่ออิฐถือปูนแข็งแรง แต่ตกแต่งให้อ่อนช้อยสวยงามด้วยลายลูกไม้ปูนปั้น นับเป็นสถาปัตยกรรมก่อสร้างที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของชาติ มี อนุสาวรีย์เจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าหอคำ ปีพุทธศักราช 2517 กรมศิลปากรได้รับมอบอาคารหอคำเพื่อใช้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดน่าน โดยได้ปรับอาคารหอคำทั้งโถงชั้นล่างและชั้นบนให้เป็นพื้นที่แสดงประวัติศาสตร์ ศิลปะ โบราณคดี และชาติพันธุ์วิทยาประจำท้องถิ่นจัดแสดงโบราณวัตถุ ตลอดจนสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับจังหวัดน่าน นำมาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมอย่างมีระบบ และส่วนที่สำคัญของอาคารคือ “งาช้างดำ” ซึ่งเป็นปูชนียวัตถุคู่เมืองน่าน ลักษณะของงาช้างดำนี้เป็นงาปลีเปลือกสีน้ำตาลเข้ม ความยาว 97 เซนติเมตร วัดโดยรอบ 47 เซนติเมตร ส่วนปลายมนมีจารึกอักษรธรรมล้านนา ว่า "กิ่งนี้หนักหนึ่งหมื่นห้าพัน" หรือประมาณ 18 กิโลกรัม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่าน เปิดให้เข้าชม ในเวลาราชการ เวลา 09.00-16.00 น. วันพุธ - วันอาทิตย์ ติดต่อ โทร. 054-710561
เดินทางโดย การเดิน
ใช้เวลา 9 นาที
ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน
ชาวบ้านในแต่ละพื้นที่จะมีความถนัดในอาชีพที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเงิน ผ้าทอมือ ตะกร้า จักสาน เกลือสินเธาว์ กาแฟ ฯลฯ ของฝากขึ้นชื่อจังหวัดน่านจึงมีหลากหลาย ต่างไปตามพื้นที่ต่างๆ หากไม่สะดวกจะออกไปเยี่ยมเยือนให้ทั่วแต่ก็สามารถซื้อหาของฝากได้ครบ โดยไปที่ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ OTOP CENTER ถนนสุริยพงษ์ ใกล้ร้านข้าวซอยต้นน้ำ มีผ้าฝ้ายทอมือลวดลายเฉพาะถิ่นหลากหลายให้เลือกซื้อหา มีภาพวาดปู่ม่าน ย่าม่าน ในรูปแบบต่างๆ ให้เลือกเป็นที่ระลึก หากใครยังปลื้มใจกับกระซิบรักบันลือโลกจากวิหารวัดภูมินทร์ คอกาแฟ ก็ไม่ควรพลาดกาแฟคุณภาพจากดอยสูง เช่น กาแฟภูฟ้า กาแฟภูพยัคฆ์ ส่วนผู้หลงใหลเครื่องเงิน ทั้งเครื่องประดับและของใช้วิจิตรตระการตา ที่ศูนย์ OTOP มีให้เลือกจนจุใจ และโปสการ์ดที่ระลึก มะไฟจีนอบแห้งที่รสชาติคล้ายบ๊วย และไม่ควรลืมของฝากขึ้นชื่อ ข้าวหลามเมืองน่านแสนอร่อย เนื้อนุ่มหอมหวานหลายรสชาติ
เดินทางโดย การเดิน
ใช้เวลา 11 นาที
ร้านขนมหวานป้านิ่ม
บัวลอยไข่หวาน ไม่ต้องเติมน้ำตาลก็หวานจับใจ ด้วยรอยยิ้มป้านิ่มสดใส ละไมละมุน...บทเพลง “น่าน น่ะสิ” โดย ศุ บุญเลี้ยง นำความรู้สึกอร่อยจากเมนูบัวลอยไข่หวานของป้านิ่มส่งต่อถึงผู้ฟัง จนร้านขนมหวานป้านิ่มถือเป็นรายการห้ามพลาดหากใครมาเมืองน่าน ร้านขนมหวานป้านิ่มอยู่ตรงข้ามวัดศรีพันต้น มีที่จอดรถสะดวกสบายพร้อมรองรับนักชิมขนมหวาน ที่นั่งเป็นระเบียงไม้ยกพื้น โปร่งสบายรับลมเย็นยามค่ำ นอกจากเมนูบัวลอยไข่หวานอันขึ้นชื่อ ยังมีไอศกรีมกะทิ ข้าวเหนียวดำเปียกเผือกมะพร้าวอ่อน ไอศกรีมสลิ่ม รวมมิตรน้ำแข็งไส และอื่นๆ อีกมากมายไว้ให้บริการแก่นักชิมผู้นิยมความหวานเย็นชื่นใจ เปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00-22.00 น. และปิดทุกวันอังคารและพุธ ยามค่ำร้านนี้นักชิมนิยมมานั่งรับลมเย็นๆ ช่วงค่ำถึงดึกร้านป้านิ่มจึงคึกคักไปด้วยคนชอบความหวาน
ดินทางโดย รถยนต์
ใช้เวลา 6 นาที
ร้านวันดา
เป็นร้านเก่าแก่ของอำเภอเมืองน่านที่น่าแวะมาชิม แม้จะเป็นร้านขายข้าวแกงแสนธรรมดาที่เหมือนบ้าน 2 คูหา ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ป้าดาใจดีมากรสชาติอาหารที่อร่อยสุดๆ โดยเฉพาะเมนูเด็ด ข้าวซอยไก่ ข้าวกั้นจิ้น หมูสะเต๊ะ ส้มตำ ส่วนขนมหวานเป็นสาคูมะพร้าวอ่อนที่เครื่องจัดเต็มทั้งมะพร้าวและเผือกรสชาติหวานมัน ราคาก็เบาๆ นั่งทานไปแถมได้ซึมซับวิถีชีวิตคนพื้นเมืองน่านอีกด้วย ร้านเปิดขายทุกวันตั้งแต่ 7.00 – 17.00 น.
เดินทางโดย การเดิน
ใช้เวลา 7 นาที
ร้านอาหารบรรยากาศริมแม่น้ำ
นอกจากร้านอาหารพื้นเมืองรสดีแล้ว ที่น่านก็มีร้านอาหารนั่งสบายๆ ริมน้ำให้เลือกมากมายตั้งแต่ เฮือนเจ้านาง สุริยาการ์เด้น สวนสะเนียน เรือนแก้ว และอื่นๆ แต่หากอยากเปลี่ยนบรรยากาศเป็นกินข้าวต้มยามเย็นตะวันคล้อยลองแวะไป “ร้านปุ้ม 3” เยื้องธนาคารกรุงศรีอยุธยาแถวถนนอนันตวรฤทธิเดชก็ได้ อร่อยทุกเมนู
เดินทางโดย การเดิน
ใช้เวลา 20 นาที
ร้านเฮือนฮอม
เฮือนฮอม ร้านอาหารเหนือพื้นเมืองแท้ๆ อยู่ใจกลางเมืองน่านไม่ไกลจากวัดมิ่งเมืองที่ตั้งของศาลหลักเมืองน่าน มีอาหารรสชาติอร่อยให้เลือกหลากหลาย เมนูเด่นของที่นี่ คือ ขนมจีนและน้ำแกงครบชุด ไม่ว่าจะเป็นน้ำเงี้ยว น้ำกะทิ และน้ำพริก เสิร์ฟพร้อมผักเคียง สดสะอาดน่ารับประทาน ชุดน้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ไส้อั่ว ผักลวก นอกจากนี้ยังมีชุดน้ำพริกน้ำปู และน้ำสมุนไพรน้ำมะไฟจีน หวานหอม ดับกระหายคลายร้อน บรรยากาศร้านเป็นสวนเปิดโล่งนั่งสบายไม่คับแคบ เหมาะสำหรับทุกวัย ครอบครัว กลุ่มเพื่อน และคู่รัก เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 10.00-22.00 น.
เดินทางโดย การเดิน
ใช้เวลา 12 นาที
